[ SF SHINee ] In My Memory ความทรงจำนิจนิรันดร์
จงฮยอนใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้อง แต่กลับพบแต่ความผิดหวัง จนฟ้าลิขิตเธอคนนั้นมาเติมเต็มให้เขามีพลังสู้ต่อ... และฟ้าอีกเช่นกันที่ทำให้แทมินเป็นความทรงจำที่ไม่อาจลืม.....
ผู้เข้าชมรวม
1,952
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
In MY Memory ความทรงจำนิจนิรันดร์......
The best time in my life is having you beside me.
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของฉัน คือคือวันที่มีเธอเคียงข้าง
The happy time in my life is doing everything for you.
ช่วงเวลาที่มีความสุขของฉัน คือการกระทำทุกสิ่งเพื่อเธอ
9/08/53
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Short Fiction : In My Memory ความทรงจำนิจนิรันดร์
Couple : Jonghyun X Taemin
Fiction By : Rain shower
ณ สวนสาธารณะ
ในเช้าวันนี้หลังจากเสร็จจากการอัดเสียง จงฮยอนก็ทอดน่องมายังสวนสาธารณะซึ่งไม่ไกลจากบริษัท ภาพถ่ายจากกระเป๋าเสื้อถูกหยิบขึ้นมาพลางนั่งมองคนในภาพถ่ายด้วยสีหน้าเรียบ
“ ลุงจงฮยอนฮะ นี่ใครเหรอฮะ? ” เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อยวัยสี่ขวบเอ่ยถาม ขณะที่เห็นคนนั่งข้างเหม่อมองอยู่นาน
“ ก็คุณน้าแทมินไงล่ะครับ ”
“ คุณน้าแทมิน? ” เอ่ยพลางทำหน้านิ่วอย่างสงสัย จงฮยอนจึงอธิบายเรื่องราว
“ น้าแทมินเป็นเพื่อนของอาป้ามินโฮกับออมม่าคีย์ คราวนี้เข้าใจรึยังครับ
โฮบอม ”
“ อ๋อ! ที่แท้คนน่ารักๆในรูปก็เป็นเพื่อนของอาป้ากับออมม่านี้เอง ”
“ มากวนอะไรคุณลุงอีกละครับ? ” เสียงทุ้มของชายร่างสูงดังขึ้น พร้อมกับหย่อนตัวลงนั่งข้างๆลูกชายสุดที่รัก
“ เปล่ากวนนะฮะ
โฮบอมแค่บอกว่าน้าแทมินน่ารักมากเลย ” เมื่อได้ยินชื่อแทมิน สายตามินโฮพลันมองใบหน้าของจงฮยอน ฉายแค่เพียงความเศร้าหมอง
“ จงฮยอน..นี่มันก็ผ่านมาปีกว่าแล้วนะ นายยัง
”
“ ฉันรู้ว่าเวลามันผ่านมานาน แต่แทมินเค้าเป็นคนที่สำคัญในชีวิต
”
“ ฉันลืมเค้าไม่ได้หรอก ” จงฮยอนบอกด้วยน้ำเสียงสั่น รู้ดีว่ากาลเวลาไม่สามารถย้อนกลับมาได้อีก
หากเป็นไปได้เค้าจะไม่มีวันยอมปล่อยแทมินไปเด็ดขาด หยดน้ำใสคลอปริ่มม่านตากับความรู้สึกคิดถึงร่างเล็กสุดหัวใจ กอดภาพถ่ายที่มีอยู่ไว้แน่นราวกับอยากให้คนๆนั้นได้สัมผัสถึงไออุ่นรัก มินโฮมองดูท่าทางของจงฮยอนก็รู้สึกเศร้าใจไม่น้อย ในฐานะเพื่อนคงทำได้แค่ปลอบใจ มือหนาวางลงบนบ่า
“ นายอย่าลืมสิ ว่านายยังมีฉันที่รักนาย พร้อมจะอยู่เคียงข้างนายเสมอ ” รอยยิ้มเจือนตอบรับ ใบหน้าเรียวเงยขึ้นมองฟ้าอย่างหวนคะนึง ฉันรักนายนะ
แทมิน
เมื่อหนึ่งปีก่อน
ณ Sound & Radio
“ คุณคิม จงฮยอนค่ะ เชิญข้างในค่ะ ” เสียงเรียกนั้นทำเอาจงฮยอนที่นั่งกุมมืออย่างพะวงถึงกับสะดุ้ง
“ ครับ ” เค้าค่อยๆย่างก้าวเข้ามาในห้องกว้าง หย่อนตัวนั่งเก้าอี้ที่วางอยู่กลางห้อง ปะทะสายตาต่อกรรมการทั้งสามที่ดูสีหน้าคร่ำเครียด ความเงียบเข้าปกคลุมมีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศอุณหภูมิสูงจนขนลุกซู่ ร่างแกร่งนั่งมองอย่างยิ้มๆพร้อมเสียงหัวใจที่เต้นถี่
“ เอ่อ
คุณคิม จงฮยอนใช่มั้ยครับ? ” กรรมการคนแรกถามขึ้น
“ ใช่ครับ ”
“ ผมชอบสไตล์การร้องของคุณมากนะครับ พลังเสียงดีเยี่ยมทีเดียว ” คำพูดประโยคนั้นทำให้จงฮยอนใจชื้นขึ้นมาได้บ้างจนฉายยิ้มกว้างขึ้น
“ แต่ทางเรายังไม่มีนโยบายที่จะทำเพลงแนวนี้ เสียใจด้วยนะครับ ” หลังจากที่ได้ยินคำตอบซึ่งเค้ารู้ดีว่าผลลัพธ์มันจะต้องเป็นแบบนี้ เลยได้แต่ท้อใจ
“ มะ
ไม่เป็นไรครับ ” กล่าวลาพร้อมกับพาร่างอันหนักหน่วงกลับมายังห้องเช่าเล็กๆ ความหวังที่จะได้เป็นนักร้องพังทลายจนนับครั้ง ไม่ว่าจะไปเสนอผลงานเพลงที่ไหน จงฮยอนกลับถูกปฎิเสธทุกที
“ เฮ้อ! สงสัยคงจะไม่มีหวังแล้วล่ะมั้ง ทำไมกันหว่าฟ้าไม่ยุติธรรมเอาซะเลย ” จังหวะที่จงฮยอนบ่นพึมพำในโชคชะตาชีวิตอยู่นั้น ท้องฟ้ากลับมืดครึ้ม เมฆสีเทาก่อตัวกัน และแล้วสายฝนก็โปรยปรายอย่างไม่ลืมหูลืมตา
“ เออ..เอาเข้าไปซ้ำเติมกันดีนัก ” พลางสบถอย่างฉุนเฉียว
“ ก๊อก ก๊อก ก๊อกๆๆ ” ร่างแกร่งหันมองที่ประตูห้อง ฉงนเพราะแรงเคาะหนักขึ้น
เมื่อบานประตูถูกเปิดออกก็พบร่างของคนตัวเล็ก ยืนสั่นเทาเพราะความหนาว ใบหน้าซีด ดวงตาใสหรี่ลงจนปิดสนิท
“ อ้าวเฮ้ยคุณ!...คุณครับ..คุณ ” ร่างคนตรงหน้าล้มลงกับพื้น ทำเอาจงฮยอนถึงกับตกใจ รีบอุ้มร่างนั้นเข้ามาในบ้าน เค้าค่อยๆวางร่างอันเปียกชุ่มนอนบนโซฟาหนา
“ โห! ตัวร้อนจี๋เลยนิ ” มือหนาแตะหน้าผากจนรับรู้ถึงไอร้อน ไม่รอช้าอ่างน้ำและผ้าขนหนูก็เตรียมพร้อม เช็ดตัวพร้อมกับเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เป็นที่เรียบร้อย
“ หนาว~ ~ ~ ” ปากบางสั่นระรัวกับความหนาวเย็นสะท้าน จนเพ้อออกมาอย่างไม่รู้ตัว จงฮยอนเห็นดังนั้นเร่งลุกไปหยิบผ้าห่มผืนใหญ่ มาคลุมกายร่างเล็กเพิ่มความอบอุ่น
เช้าวันรุ่งขึ้น
“ อือ~~ ”
“ ตื่นแล้วเหรอฮะ? ” จงฮยอนปรือตาขึ้นก่อนจะเห็นใบหน้าเล็ก ยื่นมาประชิดจนต้องดีดตัวห่าง
“ เฮ้ย! นี่นาย
” คนถูกทักยิ้มแก้มปริ
“ ขอบคุณมากนะฮะที่ช่วยผมไว้ ถ้าไม่ได้คุณ
ผมคงแย่เลยฮะ ”
“ ฮิ
ฮิ ” ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนย้อนกลับมา ทำให้ร่างแกร่งเข้าใจ
“ อ๋อ..ไม่เป็นไรหรอก เห็นคนเป็นลมอยู่หน้าบ้าน จะให้ฉันใจดำไม่ช่วยได้ไงกัน ”
“ ฮื้ด..ฮึด
ฮึด!! ”
“ กลิ่นอะไรน่ะ? ” จมูกเรียวเชิดขึ้น เป็นเรดาร์หาที่มาของกลิ่นหอมนี้
“ คือว่า..ผมทำอาหารไว้ให้ตั้งเยอะเลยฮะ ” ร่างเล็กบอกด้วยน้ำเสียงใส จงฮยอนหันมองไปที่โต๊ะอาหารที่บัดนี้เต็มไปด้วยอาหารหลายสีสัน ใบหน้าเหวออย่างขีดสุด ไม่เชื่อสายตาตัวเอง
“ นี่ นายเป็นคนทำเองหมดเลยหรอ? ”
“ ผมเห็นว่าคุณช่วยผมไว้
ก็เลยอยากจะตอบแทนน่ะ รีบลุกไปทานเถอะฮะ เดี๋ยวมันจะเย็นหมด ” ว่าแล้วร่างเล็กก็ลากจงฮยอนมาที่โต๊ะอาหาร
“ ค่อยๆทานสิฮะ เดี๋ยวก็ติดคอตายหรอก ”
“ ค่อกๆ แค่กๆ ”
“ นั่นไง! พูดยังไม่ทันขาดคำ ” รีบรินน้ำให้ร่างแกร่งเป็นการด่วน
“ โธ่! ก็นานๆที ฉันจะได้ทานอาหารอร่อยๆแบบนี้นิ อร่อยมากเลยนะ ” คนฟังถึงกับหน้าแดงเป็นลูกตำลึงเลยทีเดียว ระหว่างที่จงฮยอนยังคงตั้งหน้าตั้งตาตักอาหารนั้น
“ เอ่อ
เอ่อคือ..ผมมีเรื่องจะขอร้องคุณหน่อยฮะ ”
“ เรื่องไรของนาย? ” บอกพลางมือไม้ก็ตักอาหารจนล้นจาน
“ ขอผมอยู่กับคุณที่นี่นะฮะ ” ร่างเล็กกลั้นใจพูดออกมาในที่สุด ดวงตากลมหลับปี๋อย่างกลัวคนตรงหน้า จงฮยอนชะงักมือวางช้อนลงตามเดิมก่อนจะหันไปมองร่างเล็ก พลางหน้านิ่วคิ้วขมวด
“ พูดอะไรของนาย
ไม่มีทาง! ” เน้นย้ำคำชัดเจน คนฟังถึงกับคอตก
“ ให้ผมอยู่ที่นี่ด้วยเถอะฮะ รับรองว่าผมจะไม่สร้างปัญหา จะเชื่อฟังคุณทุกอย่าง นะ นะ นะ
ให้ผมอยู่ด้วยนะ ” เขย่าแขนเรียวเป็นพัลวัน แต่ถึงอย่างไรจงฮยอนก็ปฎิเสธ
“ ไม่! ”
“ เด็กกำพร้าอย่างผมไม่มีที่ไปจริงๆนะ นึกว่าสงสารเด็กน้อยตาแบ๋วๆเถอะฮะ ” จงฮยอนค้อนมองสายตาวิ๊งของร่างเล็ก ก็รู้สึกเห็นใจและเข้าใจความรู้สึกดี จึงยอมใจอ่อน ร่างเล็กดีใจเผยยิ้มหวานให้เห็นจนเค้าแทบใจละลาย
“ วะ..ว่าแต่นายชื่อ? ”
“ ผมลี แทมินฮะ ”
“ อืม
ฉันคิม จงฮยอน ”
“ ฮะ
พี่จงฮยอน งั้นเดี๋ยวผมเก็บจานไปล้างให้ดีกว่าฮะ ” ยังไม่ทันที่ร่างแกร่งจะได้เอ่ย แทมินก็จัดการเก็บกวาดทั้งหมด สายตาคมจดจ่อร่างเล็กอย่างไม่วางตา ราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่าง
ในทุกๆวันแทมินคอยดูแลจงฮยอนเป็นอย่างดี ทั้งช่วยดูแลบ้าน จัดเตรียมอาหาร จนในเวลานี้จงฮยอนรู้สึกดีกับแทมินอย่างบอกไม่ถูกที่ทำให้ชีวิตเค้าเปลี่ยนแปลงไป มีร่างเล็กกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
“ แทมินดูนี่สิ
น่ารักเนอะ ” ขณะที่เดินดูร้านค้าต่างๆเรียบถนนเมียนดง จงฮยอนก็หยุดตรงหน้าร้านสัตว์เลี้ยง แมวน้อยพันธุ์เปอร์เซียเป็นสิ่งที่เค้าจับจ้องอย่างสนใจ
“ แทมิน..แมวตัวนี้น่ารักเหมือนแทมินเลยล่ะ
ฮิ ” สองมือประคองลูกแมวไว้ในอกพลางส่งยิ้มให้คนข้างกาย
“ นายเป็นไรรึเปล่า? ทำไมซีดหน้าดูไม่ดีเลย ”
“ ปะ
เปล่าฮะ เอ่อพี่จงฮยอนชอบแมวตัวนี้จริงๆเหรอฮะ? ” น้ำเสียงสั่นพยายามนิ่งเป็นปกติ
“ ใช่ มันน่าเอ็นดูมากเลยล่ะ ”
“ ถ้าอย่างงั้นผมจะช่วยพี่เลี้ยงเองฮะ ”
“ จริงนะแทมิน ” ร่างเล็กยิ้มรับด้วยความยินดี
“ เมี๊ยว~~~ ”
“ ฮิ
ฮิ ดูสิแทมินมันอ้อนฉันใหญ่เลย ” ทั้งสองต่างหัวเราะร่ากับท่าทางออดอ้อนของเจ้าเหมียว
แต่ในระหว่างที่พวกเค้ากำลังเพลิดเพลินอยู่นั้น ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ชายรูปร่างสูงใหญ่สองคนวิ่งเข้าขวางทางพวกเค้าอย่างเร็ว ทั้งจงฮยอนและแทมินต่างตกใจ
“ พี่จงฮยอนวิ่งเถอะฮะ ” เมื่อไม่ได้การณ์ร่างเล็กรีบฉุดแขนเรียววิ่งหนีเลี่ยงไปอีกทาง
“ หยุดเถอะครับคุณหนู
.คุณหนูครับ ” เสียงตะโกนไล่ตามหลังมาติดๆ ทั้งคู่วิ่งลัดลอกไปตามตรอกซอย
“ พวกมันไล่ตามเราทำไมกันนะ แล้วใครกันคุณหนูอะไรนั่น ” จงฮยอนเปรยขึ้นอย่างสงสัย เมื่อมาถึงตรงทางแยก ชายหน้าโหดต่างแยกย้ายกันหาคนละทาง
“ งั้นแกไปทางนู้น ฉันจะไปทางนี้เอง ” ทั้งคู่หลบซ่อนอยู่หลังเสาหินซึ่งอำพรางจากพวกมันได้สำเร็จ
“ ปลอดภัยแล้วล่ะแท
”
“ นายเป็นอะไรไปน่ะ? ” เห็นอาการคนข้างกายแปลกไป เพราะตอนนี้แทมินหายใจติดขัด ทั้งตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อ
“ ผะ
ผม..ไม่เป็นไรฮะ ”
“ นายแน่ใจนะ ไปหาหมอดีกว่ามั้ย? ”
“ ไม่นะฮะ! ” เสียงใสค้านลั่น ทำเอาจงฮยอนขมวดคิ้ว
“ อะ..เอ่อคือ
ผมไม่ได้เป็นอะไรจริงๆฮะ เรากลับบ้านกันเถอะ ” ร่างเล็ดสูดหายใจลึกก่อนจะเดินนำหน้าไป ทิ้งให้คนด้านหลังยังคงงงงวยกับท่าทางแปลกประหลาด ที่พักหลังแทมินดูจะเงียบๆ เมื่อมาถึงห้องเช่า จงฮยอนยังคงจับจ้องร่างเล็กไม่วางตา ราวครุ่นคิดสงสัยบางอย่าง
“ ติ๊งน่อง!!! ” สัญญาณออดทำให้จงฮยอนตื่นจากห้วงความคิด เร่งเปิดประตูโดยพลัน
“ อ้าวเฮ้ยมินโฮ! แกมาได้ไงวะ ”
“ พอดีคิวถ่ายแบบเลื่อนเป็นอาทิตย์หน้าวะ ฉันก็เลยแวะมาหาแก ” มินโฮกล่าวทักทายอย่างยิ้มแย้ม เค้าเป็นหนุ่มหล่อ ไฮโซดีกรีนายแบบแนวหน้า แม้จะต่างแตกกันในเรื่องฐานะแต่ทั้งสองก็เป็นเพื่อนที่ดีกันมาตลอด สายตาร่างสูงเอี่ยวมองคนในห้องอย่างยิ้มๆ
“ เฮ้ยไอจง..เดี๋ยวนี้แอบมีความลับกับเพื่อนเหรอวะ ”
“ ความลับอะไรของแก? ” พลางมองตามสายตามินโฮจึงได้เข้าใจ
“ อ๋อ! นั่นลี แทมิน เค้ามาอยู่กับฉันได้สักระยะแล้วล่ะ ” มินโฮมองหน้าด้วยความงุนงง
“ เค้าไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน
แกก็รู้ว่าฉันก็เป็นเด็กกำพร้า แกไม่เข้าใจความรู้สึก
หรอกวะ ”
“ เออๆ ฉันไม่รู้ แต่ทำไมแกต้องโมโหขนาดนี้ด้วยวะ ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรสักคำ ” ส่ายหน้าเอือมๆ กับท่าทีของจงฮยอนที่ชักจะแปลกก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน ตรงดิ่งหาร่างเล็กที่กำลังเล่นกับแมวเหมียวอยู่
“ อะแฮ่ม! สวัสดีครับ ”
“ ค่อกๆ สะ
หวัดดีฮะ ”
“ ผมชเว มินโฮเป็นเพื่อนสนิทของจงฮยอนครับ ”
“ ค่อกๆแค่กๆ ยินดีที่ได้รู้จักฮะ ผมลี แทมิน ”
“ แทมินไม่สบายรึเปล่าครับ ทำไมถึงไอขนาดนี้ล่ะ? ” เค้าสังเกตเห็นใบหน้าซีดจางจึงเป็นกังวล
“ เปล่า
ผมขอตัวก่อนฮะ ” ส่ายหน้าใหญ่ก่อนจะลุกกลับเข้าห้อง
“ จงฮยอน แทมินเป็นอะไรน่ะ? ”
“ ไม่รู้สิ ฉันจะพาไปหาหมอ เค้าก็ไม่ยอมท่าเดียว ” กล่าวบอกอย่างจนใจ เพราะไม่ว่าจะพูด หรือเกลี่ยกล่อมยังไง แทมินก็ปฎิเสธ
“ ว่าแต่แก แวะมาหาฉันมีเรื่องอะไร? ”
“ อือ! เอานี่มาให้แกดู ”
“ พึ่บ!! ”
“ TN Entertainment เฟ้นหานักร้องหน้าใหม่สู่วงการบันเทิง ขอแค่เพียงคุณมีฝัน แล้วมุ่งมั่น Super Star ดวงใหม่อาจเป็นคุณ
. ”
จงฮยอนไล่เรียงคำไปตามบรรทัดในโปสเตอร์ที่อยู่ในมือมินโฮ
“ ฉันอยากให้แกลองดูน่ะ เผื่อว่าแกจะได้เป็นนักร้องสมใจไง ” คะยั้นคะยอเพราะเค้ารู้ดีว่าเพื่อนคนนี้ ใฝ่ฝันการเป็นนักร้องมากแค่ไหน
“ แต่ฉัน
คงทำไม่ได้วะ ”
“ พูดอะไรอย่างนั้น มั่นใจหน่อยดิวะ คราวที่แล้วพลาด คราวนี้ก็สู้ใหม่ดิ
ฉันเชื่อว่าแกต้องทำได้ ” น้ำเสียงทุ้มบอกอย่างเชื่อมั่นในตัวเพื่อน
“ กริ๊ง!!! ”
“ ฮัลโหล! แทมิน..นายอยู่ที่ไหน เดี๋ยวพี่ไปรับ ”
“ อะ
เอ่อไม่ต้องหรอกฮะ ผมอยู่ที่นี้สบายดี ”
“ แต่ว่านายยังป่วยอยู่นะ ”
“ เปล่าสักหน่อย ผมแค่
แค่แปลกกว่าคนอื่น ” หยดน้ำใสคลอปริ่มม่านตากับความรู้สึกน้อยใจ ที่ฟ้ากำหนดชีวิตเค้า ให้ต่างจากคนทั่วๆไป
“ พิ..พี่ขอโทษนะแทมิน พี่ไม่ได้ตั้งใจ ” ปลายสายก็รู้สึกผิดที่พลั้งปาก
“ ที่ผมโทรมาหาพี่อนยู ก็แค่อยากให้พี่ยกเลิกงานแต่งของเราเถอะฮะ
ผมไม่ได้รักพี่
”
“ ไม่นะแทมิน!! พี่รักแทมินนะ ” อนยูยังคงคัดค้าน เค้าทุ่มเททำทุกอย่าง เพื่อแทมินมาตลอด
“ ขอโทษจริงๆฮะพี่อนยู ผมมีคนที่รักอยู่แล้ว และก็เลิกตามหาผมสักที ” คำพูดของร่างเล็กช่างตัดพ้อให้อนยูเจ็บปวด ร้องไห้หนักที่ถูกคนที่ตัวเองรักปฎิเสธ
“ พี่จงฮยอน ทำอะไรอยู่ฮะ? ” ร่างเล็กเดินตรงมานั่งข้าง สายตาพลันเห็นโปสเตอร์แผ่นนั้น ถึงกับใบหน้าเหวอ
“ TN Entertainment ”
“ นี่
พี่จงฮยอนอยากเป็นนักร้องเหรอฮะ? ”
“ อือใช่ มันเป็นความฝันของฉันเลยล่ะ แต่ฉันรู้สึกกังวลจังเลยแทมิน ” มือบางเอื้อมไปกุมมือคนข้างกายพร้อมยิ้มหวาน
“ อย่ากังวลไปเลยฮะ ผมเชื่อว่าพี่ต้องทำได้แน่ ยังไงซะพี่ก็ต้องได้เป็นนักร้อง ”
“ จริงนะแทมิน
นายจะไม่ทิ้งฉันไปไหนนะ ”
“ ฮะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะอยู่เคียงข้างพี่จงฮยอนตลอดไป ” แทมินให้คำมั่นสัญญา ก่อนที่ริมฝีปากของร่างแกร่งประทับรอยจูบอย่างรู้สึกขอบคุณ นับจากนี้ความโดดเดี่ยวจะไม่มีวันเกิดขึ้นกับเค้าอีก
ณ TN Entertainment
ผู้คนต่างเนืองแน่นมารวมตัวกันอยู่หน้าบริษัทตั้งแต่เช้าตรู่ หนึ่งในนั้นก็คือจงฮยอน
“ โห!แทมิน คนเยอะจัง ฉันชักกลัวแล้วสิ ” ดวงหน้าไร้ความมั่นใจอย่างเห็นชัด
“ อะไรกันพี่จงฮยอน อย่าไปกลัวเค้าสิ เราก็มีความสามารถเหมือนกันนะ ”
“ สู้ๆฮะ ” ร่างเล็กชูกำปั้นช่วยเรียกความั่นใจให้เค้าได้ไม่น้อย พร้อมสวมกอดกันอีกครั้ง
เมื่อเห็นจงฮยอนเดินลับสายตาแล้ว แทมินก็รีบแฝงตัวไปในตึกบริเวณชั้น2 มาหยุดอยู่หน้าห้องๆหนึ่ง ราวกับคุ้นชินที่นี่เป็นอย่างดี
“ ก๊อก!!! ”
“ เชิญครับ ” บานประตูถูกเปิด เมื่อเห็นร่างของแทมินชายวัยกลางคนถึงกับตกใจ
“ สวัสดีฮะ โปรดิวเซอร์
.. ”
“ คุณหนูแทมิน!! มาได้ยังไงครับ? ” แล้วแทมินก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้โปรดิวเซอร์ได้เข้าใจ พร้อมทั้งขอร้องให้เค้าช่วยเรื่องของจงฮยอน
“ ถ้าคุณนายลีกับคุณอนยูรู้เข้าจะเป็นเรื่องใหญ่นะครับ ”
“ ถือว่าช่วยผมเป็นครั้งสุดท้ายก็แล้วกันฮะ เวลาของผมจะเหลืออีกสักแค่ไหนกัน ” พูดด้วยน้ำเสียงสั่นกับสีหน้าจืดจาง ยิ่งทำให้โปรดิวเซอร์รู้สึกสงสาร
“ ตกลงครับ ผมจะช่วย ” การร้องขอให้จงฮยอนได้เป็นนักร้องเป็นผลสำเร็จ จากนี้ไปหากเค้าไม่อยู่ก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง
“ แทมินหายไปไหนมา? ฉันรอตั้งนานแน่ะ ”
“ แล้วนี่เป็นอะไร ถึงได้ยิ้มหน้าบานเป็นกระด้ง ”
“ ฮิ
ฮิ
คนมีความสุขนิฮะ จะให้ร้องไห้หรอ ”
“ หือ
ความสุขไรอะ บอกฉันบ้างดิแทมิน ” แทมินส่ายหน้าไม่ยอมบอกใดๆ
“ นะแทมิน นายมีความสุขเรื่องไรบอกหน่อยนะๆ ” เค้าพยายามออดอ้อน แต่แทมินก็เอาแต่บ่ายเบี่ยง เห็นจงฮยอนทำตัวเหมือนเด็กๆเค้าก็รู้สึกอดหัวเราะไม่ได้
5 นาทีผ่านไป
จงฮยอนรู้สึกใจเต้นรัวเหมือนทุกๆครั้งที่ผ่านมา ยืนกุมมือบางแนบกายอย่างใจจดใจจ่อ ตื่นเต้นกับผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า รายชื่อของผู้ผ่านการคัดเลือกถูกลดจำนวนลงเรื่อยๆ ทำเอาหัวใจห่อเหี่ยว
“ แทมิน
ฉันว่าเรากลับกันเถอะ ”
“ ดะ..เดี๋ยวสิฮะ เค้ายังไม่ประกาศชื่อพี่เลยนะ ” เสียงใสค้านกับท่าทางหมดหวังของคนข้างกาย แต่เค้าไม่ใส่ใจคว้าแขนร่างเล็กก่อนจะลากเดินออกจากห้องประชุม
“ คุณคิม จงฮยอนค่ะ คุณผ่านการคัดเลือก ”
“ พี่จงฮยอน เค้าเรียกชื่อพี่แล้ว ” ปลายเท้าหยุดซอยหันมองร่างเล็กที่คลี่ยิ้มอย่างดีใจ
“ ฉันไม่ได้หูฝาดใช่มั้ย? แทมิน ฉันดีใจที่สุดเลยล่ะ ” รอยยิ้มชวนฝันฉายบนใบหน้า ทั้งสองจึงกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจเป็นที่สุด และแล้วความฝันของเค้าก็กลายเป็นจริง จงฮยอนจึงได้พาแทมินมายังที่แห่งหนึ่งเพื่อเป็นการเลี้ยงฉลอง นั่นก็คือเกาะคราม
“ ทะเลตอนกลางคืน นี่ก็สวยเหมือนกันนะฮะ ชักจะชอบที่นี้แล้วสิฮะ ”
“ ฮิ..ถ้าชอบ เดี๋ยวฉันพามาบ่อยๆก็แล้วกัน ” ทั้งคู่เดินกุมมือเรียบไปตามหาดทราย ในห้วงบรรยากาศที่แสนโรแมนติก
“ เวลาที่ฉันรู้สึกเหงา หรือโดดเดี่ยว ฉันมักจะมาระบายที่นี่แหละ เกาะครามเป็นเหมือนเพื่อนของฉันที่คอยรับฟังความรู้สึกของฉัน และที่ฉันพานายมาที่นี้ เพราะฉันอยากจะบอกว่า ฉันรักนายนะ ” ดวงตาเบิกโตกับสิ่งที่เอ่ยจากปากของร่างแกร่ง หัวใจพองโตรับรู้ถึงไออุ่นรัก แทมินรู้สึกตื้นตันจนน้ำตาไหลอาบพวงแก้ม
เวลาเพียงไม่ถึงเดือนจงฮยอนก็กลายเป็น Super Star ชื่อดังของเกาหลี มีคิวงานมากมายทั้งในและทั่วเอเชีย ในวันนี้เวทียักษ์ใหญ่ถูกจัดขึ้นที่ Lottle World แฟนคลับล้นหลามต่างมาให้กำลังใจจงฮยอน แต่ก็คงไม่เท่ากับการได้รับกำลังใจดีๆจากร่างเล็ก
“ แทมิน เดี๋ยวฉันจะขึ้นแสดงแล้ว นายไม่ให้กำลังใจฉันหน่อยหรอ? ” เสียงออดอ้อนพลางทำแก้มป่องข้างหนึ่ง แทมินมองหันดูโดยรอบเพื่อความแน่ใจว่าไม่มีใครเห็น ก่อนบรรจงกดปลายจมูกลงข้างแก้มร่างแกร่ง
“ ฮื้ด!!! ” จงฮยอนยิ้มกริ่มในท่าทางน่ารักของแทมิน ก็เพราะความน่ารักนี้แหละที่ทำให้เค้าหลงรัก
แทมินยืนมองตามหลังอยู่หลังเวที ใบหน้าแดงเป็นลูกตำลึงพลางม้วนเขิน
“ อะแฮ่ม! คุณหนูครับ ” สะดุ้งตื่นจากภวังค์ละสายตาจากร่างแกร่งก็เห็นโปรดิวเซอร์ซูจึงยิ้มรับ
“ เรื่องนั้นผมขอบคุณมากฮะ ถ้าพี่จงฮยอนไม่ได้คุณช่วยไว้ ป่านนี้เค้าก็คงต้องเสียใจ ”
“ อะ..เอ่อคือ ”
“ โปรดิวเซอร์ซู ” ยังไม่ทันเอ่ยบอก เสียงทุ้มเรียกชื่อเค้าดังขึ้นขัดจังหวะ ทั้งคู่จึงหันไปหาที่มาของเสียงนั่นก็คือมินโฮ
“ ผมจะมาถามว่าเรื่องถ่ายแบบกับคุณหนูที่เลื่อนไปเมื่ออาทิตย์ก่อน ตกลงจะเอายังไงกันครับ ”
“ ตอนนี้ก็น่าจะถ่ายได้แล้วล่ะ ก็คุณหนูแทมินอยู่ที่นี่แล้วนิ ” โปรดิวเซอร์ซูส่งสายตาไปหาคนข้างๆ มินโฮหันมองตามถึงกับพูดไม่ออก
“ แทมิน! นายคือคุณหนูลี แทมินเหรอ? ” เสียงตะกุกตะกักถามขึ้น ร่างเล็กเลี่ยงไม่ได้จึงได้แต่พยักหน้ารับในทุกกรณี
“ ถ้างั้นนายก็เป็นทายาทของTN Entertainment
เป็นคู่หมั้นของคุณอนยูอย่างนั้นเหรอ? ” แทมินกลืนน้ำลายดังอึกกับความจริงที่ถูกเปิดเผย
“ ขอโทษฮะที่ผมไม่ได้บอกความจริง เรื่องนี้ผมมีเหตุผล ”
“ เหตุผลอย่างนั้นเหรอ? ” จงฮยอนที่แอบฟังได้สักพักหนึ่งกระแทกเสียงใส่
“ ที่นายหลอกฉันมาตลอด นายมีเหตุผลงั้นเหรอ เห็นฉันเป็นตัวอะไรกันห๊ะ ” ใบหน้าแดงก่ำขุ่นมัวเต็มไปด้วยความโกรธ
“ ผมไม่ได้ตั้งใจจะหลอกพี่จงฮยอนเลยนะฮะ ฮือๆๆ ผมรักพี่นะฮะ ” หยดน้ำตาไหลเป็นสายอย่างรู้สึกเสียใจ เค้าเองก็ไม่อยากให้เรื่องต้องเป็นแบบนี้
“ ฉันเกลียดคนหลอกลวง ฉันเกลียดนาย เกลียดนายได้ยินมั้ย ” คำพูดตะโกนดังจนคนฟังรับรู้ถึงความเจ็บปวดจากข้างใน
“ ฮือๆ พี่จงฮยอนฟังผมก่อน ฮือๆๆ ผมขอโทษ ” มันสายไปซะแล้วร่างแกร่งเดินหนีไป มินโฮจึงรีบตามไปเช่นกัน ทิ้งให้แทมินร้องไห้จนแทบไม่มีหยดน้ำตาก่อนที่เรี่ยวแรงทั้งหมดจะถูกดูดหายไป
“ ฟุ่บ!! ”
หยดน้ำใสพรั่งพรูกับความเจ็บแปลบ เหมือนถูกคมกริชทิ่มแทงหัวใจนับสิบแผล เค้าเชื่อใจแทมินมาตลอด ไม่คิดว่าร่างเล็กกลับทรยศเค้าเช่นนี้
“ เฮ้ย!ไอจง ใจเย็นก่อนดิ แทมินอาจจะไม่ได้ตั้งใจที่จะหลอกนายก็ได้นะ ”
“ ไม่ได้ตั้งใจหรอ เค้าเห็นฉันเป็นไอโง่รึไงถึงได้ทำแบบนี้ ” จงฮยอนเถียงเสียงแข็ง มินโฮจึงต้อปล่อยให้จงฮยอนร้องไห้ซะให้พอ เพราะไม่ว่าจะพูดยังไงเค้าก็ยังคิดโกรธเคืองแทมินไม่หายในเวลานี้
ตั้งแต่วันนั้นจงฮยอนก็ขาดการติดต่อกับแทมิน มุ่งหน้าทำงานเพียงอย่างเดียว ใบหน้ามีเพียงความเรียบเฉยจนรอยยิ้มและความสดใสเลือนหายไปจากเค้า
ณ โรงพยาบาล
“ ติ๊ด.ติ๊ด.....ติ๊ด ” เสียงเครื่องบอกคลื่นหัวใจดังถี่อยู่ในทุกขณะ ว่าร่างเล็กยังคงมีลมหายใจ เค้าเพียงแค่หลับไปเท่านั้นมันเป็นสิ่งที่อนยูคิด เหตุการณ์วันนั้นทำให้แทมินต้องนอนอยู่ที่โรงพยาบาลจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้สติ หัวใจของอนยูแทบแตกเป็นเศษเสี้ยวหลังจากรู้ข่าว
“ แทมิน! ทำไมนายต้องทำอย่างนี้นะ ถ้านายยอมแต่งงานกับพี่ นายก็ไม่ต้องมา
”
สะอึกสะอื้นจนพูดไม่ออกที่ต้องมาทนเห็นคนที่รักเจ็บปวด
“ พี่อนยูฮะ ” เสียงแผ่วเบาแทบไม่ได้ยินเอ่ยออกมาจาปากบาง อนยูปาดน้ำตาพลางเงยขึ้นมองดวงตาใสปรือขึ้นก็รู้สึกดีใจ
“ แทมิน! นายฟื้นแล้ว พี่ดีใจจริงๆ ”
“ ผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อยฮะ จะร้องไห้ทำไมกัน ” รอยยิ้มน้อยอย่างพอมีแรงคลี่ส่งคนข้างเตียง
“ ทำไมนายต้องทุ่มเทเพื่อคนที่ไม่เห็นค่านายด้วยนะ ”
“ ก็เพราะผมรักพี่จงฮยอนยังไงล่ะฮะ ความรักมักทำให้เราทำได้ทุกอย่างเพื่อคนๆนั้น
เหมือนที่พี่อนยูทำเพื่อผมยังไงล่ะฮะ
”
“ ฮึ..ฮึ
พี่เข้าใจแล้วล่ะ ” ความรักของเค้าก็เหมือนแทมิน รักโดยการให้ ขอแค่เพียงเห็นคนที่รักมีความสุขก็เพียงพอแล้ว
“ ค่อกๆค่อกๆ ”
“ แทมิน! นายไอเป็นเลือดอีกแล้ว ”
“ แค่กๆ ผมไม่เป็นไรฮะ ก็แค่ไอแปลกกว่าคนอื่นแค่นั้นเอง ” อนยูกล้ำกลืนน้ำตาเป็นที่สุด แทมินเป็นคนเข้มแข็งมากแม้ว่าตัวเองจะเจ็บขนาดนี้ เค้าก็ไม่เคยกลัว
“ พี่อนยูอย่าบอกพี่จงฮยอนว่าผมอยู่ที่นี่นะฮะ ขอร้องเถอะฮะผมไม่อยากให้พี่เค้าเห็นผมในสภาพนี้ อยากให้พี่เค้าจดจำแค่รอยยิ้มของลี แทมินตลอดไป
. ” ใบหน้าซีดเปื้อนยิ้มเจือนบอกกับอนยู แต่เค้าก็ทำตามที่ร่างเล็กขอร้องไม่ได้ อนยูไม่อาจทนเห็นแทมินต้องทรมานอย่างนี้
ระหว่างที่กำลังอัดเสียงอยู่นั้น
“ นายจงฮยอน! นายมันเห็นแก่ตัวที่สุด ” อนยูโผล่พรวดเข้ากระชากคอเสื้อจงฮยอนอย่างแรง อีกทั้งรัวหมัดใส่ไม่ยั้ง
“ พลั่ก!!! พลั่ว!!! ”
“ อะไรของคุณ
บ้ารึเปล่า ”
“ นายต่างหากที่บ้า ทำอะไรลงไปรู้ตัวบ้างมั้ยห๊ะ ” กระแทกเสียงพลางข่มอารมณ์ที่มันครุ่นโกรธไม่ไหว มันกำลังปะทุหนักโดยการระบายลงบนใบหน้าเรียวร่างแกร่ง
“ พลั่ก!!! ” จงฮยอนเองก็เดือดพล่านไม่แพ้กัน ทั้งสองจึงแลกหมัดกันชุลมุน จนมินโฮเข้ามาเห็นเหตุการณ์จึงเข้าขวางทั้งสอง
“ หยุดๆเลย มีเรื่องอะไรกันก็พูดกันสิจะมาใช้กำลังให้ได้อะไร ” พลางมองใบหน้าของทั้งคู่ที่ดูบอบช้ำไปทั้งหน้า เมื่อเห็นว่าทั้งจงฮยอนและอนยูควบคุมสติได้แล้ว
“ ผมขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยครับคุณอนยู ”
“ เฮ้ย! มินโฮแกจะไปขอโทษมันทำไมวะ? มันมาหาเรื่องฉะ
”
“ หยุดเถอะน่า!!! ” ร่างสูงปรามเสียงดุ
“ ว่าแต่ทำไมคุณอนยูต้องลงไม้ลงมือกับเพื่อนผมล่ะ เค้าไปทำอะไรให้คุณเคืองโกรธขนาดนี้ล่ะ ” นัยน์ตาคมเขม็งจงฮยอนราวกับจะกลืนกิน
“ เค้าไม่ได้ทำอะไรฉัน แต่เค้าทำร้ายคนๆหนึ่ง ” คำพูดเป็นปริศนาของอนยูทำเอาทั้งสองแปลกใจ อนยูจึงพาพวกเค้ามาที่โรงพยาบาลก่อนหยุดตรงหน้าห้องๆหนึ่ง
“ 201 ลี แทมิน ” จงฮยอนเห็นป้ายหน้าห้องหัวใจก็หล่นวูบ น้ำตาเริ่มนองอยู่ภายในแต่ก็ยังทำใจแข็ง
“ คุณพาผมมาที่นี้ทำไม? ” สีหน้านิ่งเฉยพร้อมหลบสายตาจากคนทั้งคู่
“ นายไม่รู้สึกอะไรบ้างหรอ
คนที่นอนอยู่ในห้องเป็นคนที่รักนายนะ นายทำร้ายแทมินขนาดนี้ยังจะมีความสุขอยู่อีกเหรอไง? ”
“ คนที่ชื่อแทมินน่ะเหรอที่รักฉัน เค้าก็แค่คนหลอกลวง
” คำพูดเสียดสีร่างเล็กหลุดมาจากปากจงฮยอน คนที่ร่างเล็กรักสุดหัวใจ ความเจ็บร้าวจากคนๆนั้นจงฮยอนรับมันมามากพอ เค้าไม่อาจทนรับความเจ็บซ้ำๆนั้นได้
“ พอสักทีเถอะจงฮยอน แทมินเค้ารักนายมากนายเองก็รู้ ทำไมไม่เข้าใจความรู้สึกของแทมินบ้าง อย่าทำแบบนี้เลยนะฉันขอร้อง ฮือๆๆ ” อนยูคุกเข่าพร่ำร้องขอให้ร่างแกร่งใจอ่อน เค้าไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรที่จะช่วยลดความเจ็บปวดของแทมินได้บ้าง นอกจากร้องขอให้จงฮยอนใช้เวลาที่เหลืออยู่กับแทมินให้มากที่สุด จงฮยอนเห็นท่าทางของอนยูก็รู้สึกสับสน
“ เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ”
เรื่องในวันนั้นถูกปิดเผยให้จงฮยอนได้รับรู้ ว่าที่จริงแล้วการที่เค้าได้มาเป็นนักร้องไม่ได้เกี่ยวกับแทมิน กรรมการทุกคนเห็นความสามารถในตัวเค้าจริงๆ ก็เพราะชีวิตที่เหลืออยู่นั้นสั้นกว่าคนทั่วไป มะเร็งเม็ดเลือดขาวรุกรามจนร่างกายแทมินเริ่มแบกรับไม่ไหว แต่ก่อนที่ลมหายใจจะหมดไป แทมินจึงอยากทำสิ่งต่างๆเพื่อคนที่เค้ารัก แค่หวังให้คนๆนั้นมีความสุขและได้รักเค้าคนนั้นตลอดไป
.
เมื่อจงฮยอนได้ฟังประโยคทั้งหมด เค้าก็ได้เข้าใจว่าที่แทมินทำลงไปก็เพราะว่ารักเค้านั่นเอง
“ ฉันเป็นคนทำให้แทมินต้องเจ็บ ฉันมัน
มันเลวจริงๆ โธ่เว้ย! ”
“ พลั่ก!!! ” กำปั้นหนักกระแทกลงพื้นไม่ยั้งจนเลือดไหลซิบ แต่กลับไม่รับรู้ถึงความเจ็บ นอกจากหัวใจที่มันเจ็บแปลบกับความโง่เง่าของตัวเอง หยดน้ำใสไหลรินอย่างไม่ขาดสาย
“ แทมิน
ไม่นะแทมิน ฮือๆๆ ฉันของโทษ นายได้ยินฉันมั้ย? ” จงฮยอนพยุงร่างอันหนักหน่วงมาหาร่างของคนบนเตียง ดวงตาคลอเต็มไปด้วยน้ำตาจนมองร่างเล็กเบลอ
สิ่งที่เค้าเห็นแทบไม่เชื่อสายตา ใบหน้าร่างเล็กซีดเผือกไร้เลือดฝาด ริมฝีปากแห้งผากและสิ่งที่ทำให้จงฮยอนต้องสะอึก เมื่อเส้นผมร่วงหล่นอยู่บนหมอนหนุนและศีรษะมีหมวกไหมพรมคลุมอยู่ แทบหยุดหายใจกับภาพตรงหน้า ความรู้สึกเจ็บประดังเข้าโหมใส่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มือหนากุมมือบางขึ้นมาแนบอก
“ พี่จงฮยอน
ฮะ ” เสียงเรียกอ่อนเอ่ยชื่อคนที่กำลังกุมมือเค้าพลางส่งยิ้มระเรื่อ
“ แทมิน
ทำไมนายไม่เคยบอกฉันว่านาย
”
“ เป็นมะเร็งนะเหรอฮะ ” แทมินปล่อยลมหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน
“ นี่พี่รู้แล้วหรอ? ” พยักหน้ารับพร้อมน้ำใสๆที่ไหลอย่างไม่หยุด
ในคืนวันฝนตกนั้นแทมินทายาทเพียงคนเดียวของTN Entertainment จะต้องเข้าพิธีแต่งงานกับนักกฎหมายมาดนุ่มอย่างอนยู แต่เพราะแทมินไม่ได้รักอนยูเค้าจึงหนีการแต่งงานครั้งนี้ ระหว่างทางเค้าไม่รู้จะไปไหน เห็นร่างแกร่งเดินออกมาจากSound & Radio จึงแอบสะกดรอยตามจนมาถึงหน้าห้องเช่าของร่างแกร่ง เค้านั่งรออยู่หน้าบ้านและแล้วสายฝนก็โปรยปรายมาหนัก ร่างกายที่อ่อนแออยู่แล้วจึงรับกับสภาพหนาวเย็นไม่ไหวจนหมดสติไป แค่เพียงพบแรกที่เจอเค้าก็รู้สึกหลงรักจงฮยอนทั้งหัวใจ เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดจงฮยอนแทมินยอมทำทุกอย่างที่เป็นความสุขของร่างแกร่ง แม้ตัวเองต้องเจ็บทรมานจากอาการภูมิแพ้และโรคที่กำลังพรากชีวิตเค้าอยู่ ร่างแกร่งนึกทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาก็ยิ่งละอายใจ สิ่งที่ร่างเล็กทำเพื่อเค้ามันมากมายเกินกว่าที่เค้าสมควรได้รับมัน
“ ค่อก!!! แค่ก!!! ” เสียงไอของร่างเล็กดังราวจะปลิดชีวิตของเค้า สายตาเห็นของเหลวสีแดงเปรอะเปื้อนผ้าบางขาว ความกลัวแล่นเข้าสู่ขั้วหัวใจให้สะท้าน
“ พี่จงฮยอน พาผมไปเกาะครามอีกได้มั้ยฮะ ”
“ ฮือๆ ได้สิแทมิน
. ” ร่างแกร่งเอ่ยตอบทั้งกล้ำกลืนน้ำตา ปั้นยิ้มกลบเกลื่อนทั้งที่ในใจร่ำไห้เหลือเกิน
.
.
.
สายลมอ่อนโบกโชยอย่างเชื่องช้าจนได้ยินเสียงหัวใจถี่อ่อน
“ หลังพี่จงฮยอนอุ่นจังเลยฮะ ผมอยากอยู่อย่างนี้นานๆจัง ” น้ำเสียงสั่นพร่าบอกขณะที่จงฮยอนแบกเค้าอยู่บนหลังพร้อมย่ำก้าวลงบนเม็ดทราย จนมาถึงโขดหินใหญ่ จงฮยอนค่อยๆวางร่างเล็ก สีหน้าอิดโรยมองเห็นทีไรเจ็บแปลบหัวใจทุกครั้ง เวลาในตอนนี้มันไม่เพียงพอสำหรับเค้าอาการของแทมินดูทีท่าแย่ลงจนเค้าได้แต่ภาวนา
“ แต่งงานกับฉันนะ..แทมิน ” แหวนเพชรหยิบขึ้นมาก่อนจะสวมมันลงที่นิ้วนางข้างซ้ายของร่างเล็ก พร้อมจูบบนหน้าผากมน แววตาทอประกายกับความตื้นตันใจ
“ จากนี้ไปนายจะต้องอยู่กับฉันนะ รู้มั้ยว่าฉันรักนายมากที่สุด ฮือๆๆ ”
“ อย่าร้องไห้สิฮะ ” มือบางเอื้อมเช็ดหยดน้ำที่ไหลจากม่านตาร่างแกร่ง พลางส่งยิ้มอ่อนๆ
“ ไม่ว่ายังไงผมก็จะอยู่กับพี่ตลอดไป ต่อให้ร่างกายสลาย แต่ลมหายใจของผมมันยังเป็นของพี่
คนเดียว ” จงฮยอนโอบกอดแทมินราวกับกลัวร่างนั้นจะหายไป
วันเวลาที่เหลืออยู่มันคุ้มค่าสำหรับเค้าแล้ว แทมินไม่คิดเลยว่าช่วงชีวิตหนึ่งจะมีความสุขเกิดขึ้นกับเค้า ซึ่งมันจะเป็นความทรงจำจนถึงวินาที
สุดท้าย
“ ผมรักพี่จงฮยอนฮะ ” ลมหายใจอ่อนแรง มือบางที่ถูกกุมค่อยๆร่วงลงบนพื้นทราย พร้อมดวงตาที่หลับสนิท
เสียงคลื่นกระทบฝั่งดุจดั่งเสียงร่ำร้องจากท้องทะเลอย่างอาวรณ์ เช่นเดียวกับจงฮยอนที่ยังคงกอดร่างนั้นไว้ในอ้อมกอด
ทุกวินาทีที่มีอยู่ ทุกนาทีที่อยู่เคียงข้างกันต่างมีความสำคัญ จงฮยอนได้ทำหน้าที่รักแทมินทั้งหัวใจมาตลอดกว่า1 ปีที่ผ่านมา มันเป็นความทรงจำนิจนิรันดรถึงจนวันตาย
“ คุณลุงจงฮยอน อย่าเศร้าไปเลยฮะ ” โฮบอมเอ่ยพลางบีบมือร่างแกร่งเพื่อปลอบโยน แขนกว้างยกขึ้นปาดน้ำตาก่อนคลี่ยิ้มเจือนให้เด็กน้อย
“ ลุงเปล่าเศร้าครับ ลุงดีใจต่างหากล่ะที่ลุงได้รู้จักกับแทมิน ได้กอดแทมินและได้รักเค้า
ลุงก็ไม่มีสิ่งใดที่จะต้องเสียใจ ”
วันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรนั้นสำหรับจงฮยอนแล้วมันไม่สำคัญ แค่เพียงทุกวินาทีมีความรักของแทมินอยู่เป็นลมหายใจหล่อเลี้ยงชีวิตเค้าก็สุขใจเกินพอ
..
THE END
ผลงานอื่นๆ ของ Rain shower ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Rain shower
ความคิดเห็น